ผลไม้พื้นบ้านต้านโรค

     กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค  

         ฝรั่ง เป็นสุดยอดผลไม้ที่มีวิตามินซี ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูงมาก ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคมากขึ้น จึงสามารถป้องกันการเป็นไข้หวัดได้ 

         มะเฟือง อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ ฟอสฟอรัสและแคลเซียม ช่วยรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน เป็นยาระบายแก้ท้องผูกช่วยขับเสมหะได้

         ทับทิม เป็นยาบำรุงกำลัง แก้เจ็บคอ แก้โลหิตจาง ห้ามเลือด รักษาแผล แก้อาการปวดกระเพาะอาหาร ขับพยาธิในลำไส้ แก้ท้องร่วง 

         มะละกอแขกดำ  เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยบำรุงให้ผิวพรรณชุ่มชื้น มีเส้นใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย ขจัดไขมันในผนังลำไส้ ช่วยให้ลำไส้สะอาดดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น

         ส้มโอ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดและมีสารโมโนเทอร์ปืน ที่ช่วยในการจับสารก่อมะเร็ง  หากรับประทานส้มโอหลังมื้ออาหารจะช่วยขับลมในกระเพาะและลำไส้ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

         มะขาม ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก   

         มะยม  อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินซีสูง มีฤทธิ์ช่วยสมานแผลและใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการหลอดลมอักเสบ

พาเที่ยว "สวรรค์ชั้น 7" (Heaven 7)

          เคยได้ยินแต่เพลงสวรรค์ชั้น 7 ของ เจ เจตริน วรรธนะสิน แต่เพื่อนหลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามีสถานที่สวย ๆ แบบ "สวรรค์ชั้นเจ็ด" (Heaven 7) สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยว สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลอันดามันในจังหวัดกระบี่ได้กว้างขวางเต็มตา ส่วนบริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนที่ปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หลายชนิด ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว, คู่รัก ที่มาเที่ยวพักผ่อน กันเลยที่เดียวค่ะ (ขอแนะนำหน่อยค่ะ ไปช่วงเช้าหรือเย็นจะดีกว่า เพราะช่วงเที่ยงจะร้อนมาก)

  

          ภายในยังมีจุดถ่ายภาพสวย ๆ อีกมากมาย เช่น ชิงช้าสวรรค์สีสันสดใส, ตัวการ์ตูน, โซนบ้านคาวบอย, เครื่องบิน และสิ่งของจำลองขนาดใหญ่อย่างกระดานหมากรุก, เก้าอี้ผ้าใบ และมีเครื่องเล่นสไลด์เดอร์สำหรับเด็ก ๆ อีกด้วยค่ะ 

         ภาพถ่ายจากด้านบน "สวรรค์ชั้นเจ็ด" (Heaven 7)

         ภาพถ่ายจากด้านล่าง "สวรรค์ชั้นเจ็ด" (Heaven 7) 

          นอกจากนี้แหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามแล้ว ยังมีบริการร้านอาหารสวรรค์ชั้น 7 ร้านอาหารเดอะริธึ่ม รวมทั้งบริการที่พัก และสามารถจองคอนโดที่พักที่สามารถชมวิวของท้องทะเลได้

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 50 บาท และเด็ก ราคา 30 บาท
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-21.00 น. และ
                        วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-21.00 น.

10 อันดับ ของเกาะและทะเลภาคใต้ที่ต้องไปสัมผัสให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต

รู้กันดีว่าทะเลและเกาะต่างๆทางตอนใต้ของเมืองไทยนั้นขึ้นชื่อเป็นอย่างมากหากพูดถึงความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศต่างหลั่งไหลกันมาเที่ยวชมความสวยงามของเกาะและทะเลทางตอนใต้ของเมืองไทยกันเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี ต่อไปนี้เป็น 10 อันดับ ของ เกาะและทะเลทางภาคใต้ที่คุณต้องไปสัมผัสให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต

1. เที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี

เป็นเกาะใหญ่ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 42เกาะ เช่นเกาะหินดับ เกาะนายพุด และเกาะไผ่ลวก เป็นต้น มีพื้นที่เป็นน้ำกว่า 84 ตารางกิโลเมตรของพื้นที่ทั้งหมด มีพื้นที่เป็นน้ำกว่า 84 ตารางกิโลเมตรของพื้นที่ทั้งหมด มีชายฝั่งสูงชัน มีปะการังสวยงาม มีสัตว์มากมายเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้บริเวณชายฝั่งเช่นนกปากซ่อมดง นกเด้าดิน นอกจากนี้ยังพับสัตว์น้ำมากมายไม่ว่าจะ ปลาผีเสื้อปากยาว ปลาสินสมุทรลายน้ำเงิน เป็นต้น หากใครที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวก็แค่เดินทางมาที่ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ได้พบกับธรรมชาติที่สวยงาม

2. เที่ยวเกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี

อีกหนึ่งเกาะที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งถูกเช่าและดำเนินการโดยนางยวน ไอส์แลนด์ ไดว์ รีสอร์ท เกาะนางแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเกาะนางยวนเป็นสมบัติของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง โดดเด่นด้วยลักษณะทะเลที่คล้ายทะเลแหวก นักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมเดินทางมาดำน้ำดูปะการัง โดดเด่นด้วยชายหาดที่มีความขาวสะอาด นุ่มดุจสำลี และทะเลสีเขียวสวยงาม น่าเล่น น่าตื่นเต้น กับความอัศจรรย์ของทะเลแห่งนี้ ใครที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวก็ ควรมาก่อน 5โมงเย็น เพราะหลังจากนี้น้ำจะขึ้น ทะให้ช่วงทะเลที่เป็นทะเลแหวกมีการเชื่อมต่อกันจนไม่สามารถผ่านไปได้นั่นเอง

3. เที่ยวหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ หมู่เกาะพีพี

อีกหนึ่งเกาะที่มีชื่อเสียงสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้ประเทศไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดกระบี่ บริเวณเกาะมีถ้ำสวยงาม มีชายหาดขาวสะอาดสวยงาม นุ่ม ทอดตัวยาวเหยียด มีทะเลที่มีความใส่สีฟ้าคราม สวยงามน่าตื่นตา รวมแล้วมีพื้นที่ทั้งหมด 389.96 ตารางกิโลเมตร หรือ 243,725 ไร่ ทั่วบริเวณมีทรัพยากรธรรมชาติครบครัน ทั้งปะการัง ต้นไม้ ภูเขา ป่าบก ป่าเลน นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายและเหมาะแก่การท่องเที่ยว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังนิยมเดินทางไปบริเวณสุสานหอย 40 ล้านปี ที่อุดมไปด้วยแผ่นหอยที่เกาะตัวกันจนแข็งเป็นแผ่นหินสลับกับชั้นของถ่านลิกไนต์ หนาประมาณชั้นละ 10 นิ้ว ทอดตัวยาว 1กิโลเมตร

4. เที่ยวทะเลใต้ จังหวัดกระบี่ 4 เกาะ : เกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ และทะเลแหวก ทะเลแหวก

อีกหนึ่งความอัศจรรย์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวอเมซซิ่งไทยแลนด์สุดๆ โดยทะเลแหวกแห่งนี้ตั้งแยู่ที่จังหวัดกระบี่ เมื่อน้ำทะเลมีการลดลงต่ำ จะมีการแหวกทะเล จนเกินเป็นทางเดินที่ทำให้เราสามารถเดินเล่นและเก็บภาพเป็นที่ระลึกได้ แต่หากมาตอนช่วงน้ำขึ้นก็จะอดเห็นภาพความน่าตื่นเต้นและความประทับใจนี้นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังให้ความสนใจกับเกาะปอดะที่อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตรหาก, เกาะไก่ อยู่ใกล้ๆ กับเกาะปอดะห่างไปทางทิศใต้เล็กน้อย, เกาะทับ เป็นเกาะที่เรียกว่ามหัศจรรย์หาดทรายกลางทะเล, เกาะหม้อ อยู่ห่างจากเกาะทัพเพียง 70 เมตรซึ่งมีสันทรายขนาดใหญ่เชื่อมต่อทางเดินที่อยู่บริเวณเดียวกับเกาะแหวกอีกด้วย

5. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่

อีกหนึ่งเกาะที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 151.90 ตารางกิโลเมตร หรือ 94,937.50 ไร่ ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยบริเวณอุทยานมีเกาะน้อยใหญ่มากมาบเช่น เกาะลันตาใหญ่ เกาะลันตาน้อย เกาะตะเล็งเบ็ง เกาะพลวง เกาะเหล็ก เป็นต้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเที่ยวในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน บริเวณรอบๆ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้ต่างๆมากมาย เช่น โกงกาง แสม หลุมพอ ตะเคียน มะม่วง ป่าชายหาด ป่าชายเลน ป่าดงดิบ อีกทั้งสัตว์ป่าในอุทยานทั้ง หมึกหลอด ปูเสฉวน ปูลม หมูป่า กระจง ลิง กระรอก เป็นต้น

6. เที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา

อีกหนึ่งความประทับใจจาก จังหวัดพังงา จนได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2525 บนพื้นที่ 80,000 ไร่ มีการรวบรวมเกาะเล็กเกาะน้อยไว้มากมาเช่น เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก เกาะสิมิลัน และเกาะบางู ไว้ในเกาะสิมิลันเพียงเกาะเดียว บริเวณเกาะคุณจะได้สัมผัสกับความละมุนละไมของหาดทรายขาวละเอียดและปะการังหลายชนิด ตื่นตาไปกับกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ และหุบเขาใต้น้ำ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมชมชอบการเดินทางมาพักผ่อนเป็นหลัก เน้นการเล่นน้ำ ถ่ารูปเพื่อเป็นที่ระลึก โดยเกาะสิมิลันแห่งนี้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามไม่แพ้ทะเลอื่นใด

7. เที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

ถึงจะชื่อ หมู่เกาะสุรินทร์แต่ว่าตั้งอยู่ที่ จังหวัดพังงา ซึ่งตั้งชื่อตามพระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) เจ้าเมืองภูเก็ต ผู้ค้นพบเกาะ โดยเกาะแห่งนี้โดดเด่นเรื่อง ป่าชายเลนมาประจบกับแนวปะการัง และน้ำทะเลที่ฟ้าใสงดงาม ราวกระจก หาดทรายขาวละมุน อีกทั้งคุณยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการที่จะมีโอกาสพบฉลามวาฬอีกด้วย นักเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเที่ยวในช่วงเดือนพฤษจิกายนถึง เดือนเมษายน เพราะว่าเป็นหน้าท่องเที่ยวพอดี เป็นช่วงที่ทะเลมีความสวยงาม อากาศดีและไม่มีลมมรสุมนั่นเอง

8. เที่ยวเกาะตาชัย จ. พังงา เกาะตาชัย

เป็นอีกหนึ่งเกาะในจังหวัดพังงา ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่เดินทางมามักจะเดินทางมาพักผ่อนอย่างสงบๆ เพราะเกาะแห่งนี้มีความสงบ ที่กลบไปด้วย ความงดงาของธรรมชาติ ใครที่เดินทางมา เป็นต้องฟินกับน้ำทะเลสีสวยงาม สีคราม ไล่ระดับมาจนถึงสีฟ้าอ่อน จนน้ำใส น่าเล่น หาดทรายขาวละเอียดทอดตัวยาวเดินนุ่มเท้าสุดๆ ว่ากันว่าเกาะตาชัยแห่งนี้ได้รับการขานชื่อว่าเป็นสวยที่สุดในทะเลอันดามันอีกด้วยนะ และถ้าคุณได้เดินทางมาเที่ยวซักครั้งหนึ่งรับรองว่าคุณจะได้พบกับกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งดำน้ำชมปะการัง เล่นน้ำทะล และชมสัตว์น้ำที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า รวมไปถึงการเดินป่าที่ท้าทายความสนุกสนานรอคุณอยู่

9. เที่ยวทะเลจังหวัดตรัง

ชื่อก็บอกแล้วว่าอยู่ที่จังหวัดตรัง เมื่อเดินทางมาถึงเกาะตรังคุณจะได้พบกับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นบนผืนน้ำที่มีความสวยงามราวกับกระจก ด้วยทริปทัวร์ ถ้ำมรกต เกาะเชือก เกาะกระดาน เกาะม้า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยว ที่มาเป็นทัวร์มักจะชอบการทัวร์ทริปนี้สุดๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีนักท่องเที่ยวที่เป็นกรุ๊ปทัวร์มากที่สุดก็ว่าได้ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมา จะเน้นการเที่ยวเป็นแพ็คเกจ เพราะว่าเป็นการประหยัดและซื้อความคุ้มค่าไปในตัว นอกจากนี้ หมู่เกาะทะเลตรัง ยังได้รับการขนาดนามว่าเป็นเกาะแห่งการวิวาห์เนื่องจาก มีบรรดาคู่รักที่หลากหลายนิยมเดินทางมาจัดงานแต่งที่นี่เพราะ มีบรรยากาศที่โรแมนติก ได้อารมณ์ความรู้สึกและโลเคชั่นที่น่าประทับใจนั่นเอง

10. เที่ยวเกาะตะรุเตา จ.สตูล

หมู่เกาะตะรุเตา ว่ากันว่าเป็นเป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในทะเลอันดามันที่สวยที่สุด ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 931,250 ไร่ หรือ 1,490 ตารางกิโลเมตร มีอ่าวน้อยใหญ่ที่มีชายหาดสวยงามอยู่หลายแห่งบริเวณหมู่เกาะนี้ ประมาณ51 เกาะ เช่นกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบาตวง และเกาะบิสสีโดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเที่ยวกันในช่วง วันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 พฤษภาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่เปิดฤดูการท่องเที่ยวนั่นเอง เรียกว่าการเดินทางมาที่หมู่เกาะตะรุเตา ไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน เพราะว่าคุณจะได้พบกับความตระกาลตาของท้องทะเลอย่างแท้จริง
เครดิต: http://amazingthaisea.com/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89/